วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

Gift From Natural;Skin Plants



     ปิดเทอม กลับบ้าน พอกลับมาถึงหอก็มีของมาส่ง เป็นผลิตภัณฑ์ ดูแลผิว ที่พี่ๆ Skin Plant ใจดีส่งมาให้เราลองใช้ ก็งันก่อน เคยรีวิว
ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของเค้าไป ละร่วมสนุกได้รางวัลที่พักสุดหรูไปแล้ว
 วันนี้ก็มารีวิวเพิ่ม ของเค้าดีจริงนะ ต้องลอง


     บอกก่อนรีวิวอันนี้ของเราไม่เน้นรายละเอียดตัวส่วนผสมนะ เราจะเอาแต่ที่เด่นๆ ที่เป็นความเห็นเรา ตัวคุณสมบัติทั่วๆไปหาอ่านได้ตามเว็บอื่นๆ


     ตัวแรกก่อนเลยนะ เป็นอะไรที่ดั้งเดิมมาก เราเคยรีวิวไปแล้ว



 นั่นตั้งแต่ปี 54 เลยนะ แบ๊วป่ะล่ะ 5555
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=295719747110659&set=o.102979473118666&type=3&theater




1.SHEA BUTTER SOFT 


        ตัวนี้คือ ใช้มายาวนานตั้งแต่ตอนนั้นแหละ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ 
คือ ถามว่าดีกว่าลิปมันธรรม หรือวาสลีนยังไง คือ เชย์บัตเตอร์เนี่ย
 มันคือ ไขมันจากผลของต้น karite จากอัฟริกาตะวันตก ไอต้นเนี๊ย
 มันไม่มีใครปลูกกัน ปลูกไม่ขึ้น กว่าจะให้ผลก็25 ปีโน่น แน่นอน 
มันมาจากธรรมชาติ แน่ๆ Organic แบบไม่ต้องสงสัย ข้อดีของมันคือ
 ด้วยความเป็นน้ำมันจากธรรมชาติมันจึงทั้งช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้
ผิว และยังบำรุง กระตุ้นให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น มันก็เลยดีกว่า
วาสลีน กับลิปมันธรรมดา ที่ช่วยแค่กักความชุ่มชื่น แล้วต้องทาบ่อย
 แต่เชย์เราทาวันละสองครั้งเองนะ เช้า กับก่อนนอน ปากเราไม่แตก
อีกเลย แล้วประเด็นสำคัญคือ ไม่ต้องพกลิปมันมาถูอยู่บ่อยๆ เราจะ
รู้สึกได้เลยว่าเฮ้ย ปากมันน่าสัมผัสมากขึ้นนะ อันนี้ต้องลองถามคนที่
เคยสัมผัสปากเรานะ ว่าฟินมั้ย 555  ข้อดีอีกอย่างคือมันไม่มีสารก่อ
ระคายเคือง แล้วมันก็ช่วยบำรุงด้วย ปากก็เลยดูชุ่มชื่นไม่ดำ ใครใช้
ลิปโน่นนี่มาจนปากดำลองหามาใช้ดูนะ ก็ไม่ได้ใช้ยากเย็นอะไร 
เปิดตลับเอานิ้ววนๆถูปาก ศอกกร้านก็ทาศอก ทาเข่าด้วย 
ท้องแตกลายงาก็ช่วยได้นะเออ เล็บแห้งแตกก็ทาได้ 
คือตลับเดียวนี่หัวจรดเท้าจริงๆ บ้านเราร้อนไปหน่อย 
มันอาจจะเหลว ก็เอาไปแช่ตู้เย็นมันก็แข็งเหมือนเดิม 
ก่อนใช้ก็เอามาวอร์มบนฝ่ามือให้มันเหลวๆก่อนก็ทาได้ทั่วแล้ว 
ตัวนี้รีไฟน์เอากลิ่นถั่วๆดั้งเดิมออกไปแล้วมีกลิ่นหอม
ดอกส้มอ่อนๆ ใช้ง่ายหลายคนน่าจะชอบ มันดีทุกอย่างนะแต่เราก็
แอบตินิดนึง ตรงที่มันเป็นตลับแบบนี้อ่ะ ใช้ระหว่างวันไม่ค่อยสะดวก
 แบบเวลาเราทานข้าวอะไรเสร็จ ก็อยากทาอีกที ถ้าเป็นแท่งด้วย
ะดีมาก ใครอยากซื้อมาลองก็ไปที่วัตสันได้เลยจ้า อันนี้แนะนำ
พิเศษ




2.ROSE HIP OIL 


     ตัวนี้คืออยากลองมานาน เพราะได้ยินกิตติศัพท์มานานมาก ว่ามันเป็นน้ำมันที่มหัศจรรย์จริงๆ หลายคนใช้กันเยอะ แล้วทำไมต้องยี่ห้อนี้ คือ Skin plant เนี่ย นำเข้าโรสฮิป ซึ่งเป็นน้ำมันจากผลกุหลาบป่า ปลูกแบบ organic แท้ๆ จากประเทศชิลี ผ่านการสกัดโดยวิธีสกัดเย็น ซึ่งทำให้คงคุณค่าของวิตามินและสรรพคุณต่างๆอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังผสมวิตามินอี เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วเหม็นหืน  แล้วมันดียังไง มันเป็นน้ำมันที่ช่วยเรื่องรอยแผลเป็นได้จริงๆจังๆ เพราะกรดวิตามินเอธรรมชาติที่มีอยู่มากในตัวมันนี่แหละ ทำให้รอยแผลเป็นและรอยแตกลายงาจางลงได้จริงๆ ลองเสิร์ชอ่านในกูเกิ้ลดูสิ เคยไปอยุธยา แล้วเจอคุณป้าท่านนึงเดินคุยกับเพื่อน เพื่อนนางถามว่าใช้อะไรทำไมริ้วรอยเธอจางลง แล้วรอยแผลเป็นเธอก็จางลง คุณป้าท่านนั้นก็บอกว่าโรสฮิปไง นางก็ไม่ได้เจาะจงยี่ห้อนะ แต่อธิบายให้เพื่อนนางฟัง เราเดินตามไปนี่คันปาก อยากจะอธิบายให้ฟังเอง กลัวโดนหาว่าเผือก เอาเป็นว่าไม่ต้องบิ้วอะไรมาก เราอธิบายอะไรวิชาการไปมันก็ไม่น่าอ่านอีก ของอย่างนี้ต้องลองเอง

     วิธีใช้ก็ตามนี้แหละ ไปขโมยรูปจากเว็บเค้ามา มันใช้ได้หัวจรดเท้าแหละ

 - ผสมครีมหมักผม หรือน้ำมันมะกอก หมักผม ก็จะช่วยฟื้นฟู ให้ผมแข็งแรง ทำให้หนังศรีษะแข็งแรง ลดการหลุดร่วงได้

- ทาหน้าบางๆ ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดรอยแผลเป็น อันนี้มันดีจริงแหละ แต่ต้องบอกก่อนว่า ทาเพียวๆเหมาะกับคนผิวแห้ง ไม่เป็นสิวง่าย อีคนสิวอักเสบเกรอะหน้า อุดตันง่าย ต้องห้ามเลยนะเธอ อย่าเด็ดขาด ถ้าจะใช้จริงๆ ใช้ครึ่งหยด ผสมครีมปกติแล้วทา มันก็โอเค ตัวกัสเองก็เนี่ยแหละ ทาตรงๆสิวมาแน่ๆ ก็เลยเลี่ยงไปใช้กับตัว แต่ถ้าใครผิวแห้งนะ ทาหน้าตรงๆไปเลย มันช่วยได้มากๆ

- ศอกแห้งเข้าด้าน เธอเจอของดีแล้ว ทาเช้าเย็นเน้นๆ ไม่เกินสัปดาห์ จะพบว่า เฮ้ย มันดีขึ้นจริงๆ

- ผสมโลชั่นทาตัว เราบีบสองหยด แล้วผสมกับโลชั่น ทาทั่วตัวเลย ชุ่มชื้นขึ้นมาก ตอนก่อนเราออกไปเล่นสงกรานต์นะ เอาเอาน้ำมันตัวนี้แหละ ชโลมทั่วตัวเลย ผลก็คือ ผิวไม่เสียเลย ลองมาจับดูได้ เสียหายแต่หน้าซึ่งเราไม่ได้ทาไง T^T

- ทารอยแผลเป็น เราว่ามันจางลงนะ แต่คงต้องใช้เวลา

- ใช้เป็นน้ำมันนวดหน้า นี่ฟินมาก ชอบจริงๆ แต่เราผสมกับโจโจ้บาออย 1:1 นะ

- เช็ดเครื่องสำอางค์ เราไม่แต่งหน้านะ แต่บางวันเราทากันแดดกันน้ำ เราจะใช้เช็ดก่อนที่จะล้างหน้า




    ด้วยความเป็นน้ำมันสกัดเย็น ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ เค้าจะมีกลิ่นเฉพาะตัวนะ บางคนไม่ชอบ แต่เราโอเคนะ ถ้าใครไม่ชอบ ก็คิดซะว่าธรรมชาติ อดทนเพื่อผิวพรรณ

     สรุป นี่หมดเกือบครึ่งขวดแล้ว ฟินมาก ชอบจริงๆ สมกับที่รอคอย อยากลองมานาน แพคเกจก็ดูดีใช้ง่าย สารพัดประโยชน์ ิเหมาะกับการฟื้นฟูผิวหลังสงกรานเป็นอย่างยิ่ง คุ้มค่ากับการลงทุนนะ



3.Incredible Instant Lifting & Filling Serum

     ซีรั่มตัวนี้เราชอบที่สุดละ เนื้อครีมบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ทั้งวัน เราคิดว่าน่าจะมาจาก Acacia Gum และ Hydrolyzed Rhizobian gum ซึ่งสองตัวนี้เนี่ยเค้าเป็นโพลีเมอร์จากยางพืชจากธรรมชาติ ทำให้ตัวเนื้อเซรั่มหนืด และทำให้อุ้มน้ำได้ดีเวลาเราทาลงผิว นอกจากนี้ยังไปเติมร่องรอยเล็กๆทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นด้วยนะ ความพิเศษอีกอย่างคือ Ethyl Ascorbic Acid เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ค่อยข้างเสถียรและออกฤทธิ์ได้ดีตัวหนึ่ง ทำงานร่วมกับ สารสกัดจากต้นRumex ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิว มีน้ำมันโรสฮิปแสนวิเศษ เป็นส่วนประกอบหลักด้วย แต่ไม่ได้เยอะจนทำให้อุดตันง่ายนะ เราใช้แล้วไม่มีปัญหาเลย กลิ่นเค้าจะออกแนวอโรมานะ เป็นกลิ่นตระกูลส้ม เจอราเนียม ลาเวนเดอร์ ด้วยความที่กลิ่นมาจากสารจากธรรมชาติเนี่ย มันทำให้ได้ฤทธิ์รักษาด้วยนะ กลิ่นพวกตะกูลส้มน้ำให้เราสดชื่น เลือดไหลเวียนดี กลิ่นลาเวนเดอร์สงบระงับ ผ่อนคลาย ส่งผลต่อผิวเราโดยรวมทั้งสิ้น

      สิ่งที่เราทึ่งในแบรนด์นี้คือ พวกสารธรรมชาติพวกนี้นี่ ที่ไม่นิยมใช้กันเพราะควบคุมการผลิตยากนะ แต่เค้าก็ทำได้แล้วทำออกมาแบบคุณภาพสูง คือต้องลองนะ  แล้วจะรู้ว่าธรรมชาติ ทรงพลังจริงๆ

สรุปคือ เป็นเซรั่มที่ช่วยผิวกระจ่างใส ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ตลอดวัน ที่สำคัญเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 99.2%



4.Extremely Repair & Anti-Aging Expert Cream 

      ตัวนี้ค่อนข้างเป็นเนื้อครีมนะ กลิ่นและส่วนผสมหลักๆใกล้เคียงกับตัวซีรั่มแหละ ต่างกันตรง ตัวนี้จะมีน้ำมันและไขมันธรรมชาติหลายชนิดกว่า เช่น Argan oil ,Rose hip oil,คาโมไมล์,แอปริคอต,เชย์บัตเตอร์ และโกโก้บัตเตอร์ และยังมี Squalane ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระตุ้นให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น คืนความสดใสให้ผิวได้เป็นอย่างดี ครีมตัวนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีริ้วรอย หรือผิวแห้ง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมสำคัญ จากต้นเลือดมังกร (Dragon Blood) พืชโบราณ ที่มีความประหลาด มียางสีแดง ซึ่งยางนี้เอง ที่เราพบว่ามีคุณสมบัติในการดูแลผิวช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ป้องกันหรือรักษาริ้วรอยจากวัยที่เพิ่มขึ้น ปกป้องผิวจากสภาวะสิ่งแวดล้อม เช่น ลมเย็น อากาศแห้ง และมลพิษ ช่วยสมานริ้วรอยแตกลายของผิว ครีมตัวนี้ประกอบด้วยสารจากธรรมชาติถึง 99.7 %




นี่ต้นเลือดมังกรนะ

สรุป ครีมตัวนี้อุดมไปด้วยสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ลดเลือดริ้วรอย ป้องกันการทำลายผิวจากมลภาวะได้เป็นอย่างดี 



      สองตัวนี้เราได้มาเล็กๆนะ อย่างละ 3 ml แล้วก็ใช้หมดแล้ว ขอแอบกระซิบบอกพี่เค้าว่าอยากได้อีก เอามาฟื้นฟูหนังหน้าที่โดนสงกรานต์ทำร้ายซะหน่อย 555 

      เราชอบผลิตภัณฑ์ของ SkinPlant เพราะเรารู้มานานแล้วว่าบริษัทที่ทำเนี่ย เค้าทำนำเข้าสารธรรมชาติพวกนี้มาและเน้นทำเครื่องสำอางค์ที่มาจากธรรมชาติ และเราก็สั่งของเค้ามาตั้งนานแล้วโดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหย น้ำมันเบส บัตเตอร์ต่างๆ ก่อนจะมีแบรนด์นี้อีก เราไปเห็นโชว์รูมเค้าแล้ว มั่นใจในคุณภาพ แล้วตัววัตถุดิบเค้าเนี่ย มีใบรับรองการปลูกแบบออแกนิค คือไม่ใช้สารเคมี ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม มาจากแหล่งที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้ เลยเป็นสาเหตุให้เรารีวิวให้เองอย่างเต็มใจ


ใครที่สนใจผลิตภัณฑ์เค้าก็คลิกไปดูที่
https://www.facebook.com/skinplants
หรือ https://www.facebook.com/skinplants







วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ซีรีย์ฝากท้องที่ม.รังสิต ตอน เลิศรส

ซีรีย์ฝากท้องที่ม.รังสิต ตอน เลิศรส 





          ถ้าพูดถึงร้านอาหารร้านแรกที่ได้ทานแถวนี้ จริงๆต้องเป็นหอในนะสมัยพี่สาวรับปริญญา แต่ถ้าร้านแรกตั้งแต่มาอยู่เรียนที่นี่ คือ ร้านนี้เลยครับ เลิศรส 

          จุดเด่นคือ ร้านนี้เป็นร้านอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว อาหารรสชาดอร่อยครับ หน้าตาน่าทาน โต๊ะนั่งเยอะ บริการรวดเร็วดีครับ 




           ข้อเสียคือ ไม่มีเครื่องปรับอากาศนะครับ โล่งๆดี แต่ถ้าตอนเที่ยงๆ นั่งปาดเหงื่อเหมือนกันนะ 55

เมนูโปรดของกัสคือ



ข้าวหมูตุ๋น 
          เป็ํนข้าวที่มาพร้อม หมูตุ่นเนื่อเปื่อย รสชาดพอดี น้ำจิ้มรสเด็ด และน้ำซุปรสเข้มข้น  


           นอกจากนี้มี่สั่งบ่อยๆก็มี เย็นตาโฟ ข้าวผัดอเมริกัน ไก่ผัดซอสมะขาม อะไรประมาณนี้ครับ 
ฝั่งด้านข้าง ก็มีราดหน้ายอดผักด้วยนะ 

ว่างๆก็ลองไปชิมกันนะครับ เชื่อว่าเป็นร้านประจำของใครหลายๆคน
พิกัด หน้าประตูทางออกเลยครับ ป้ายสีเหลือง เลิศรส โดดเด่นมาก 



วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ซีรีย์ฝากท้องที่ม.รังสิต ตอน น้าหมวยผลไม้

ซีรีย์ฝากท้องที่ม.รังสิต ตอน น้าหมวยผลไม้


          พูดถึงผลไม้ เผ็นสิ่งที่คนอย่างกัสขาดไม่ได้ ร้านผลไม้ก็มีเยอะแยะมากมายรอบๆมหาวิทยาลัย ร้านน้าหมวยผลไม้ เป็นร้านผลไม้โปรด ของกัส ตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนี้จะขึ้นปีสี่แล้ว เผลอแป๊ปๆ ก็สามปีกว่าแล้วซินะ ปกติ เวลากัสมาร้านนี้ จะได้ยินเสียงกัสดังลั่นมาก่อนตัว เจ๊หมวยยยยย !! ก็จะทักทายคุยหยอกล้อกันก่อนจะสั่งผลไม้ หรือเลือกขนมไปทาน 


          จุดเด่นของร้านนี้คือ มีผลไม้ และของรับประทานให้เลือกหลากหลาย สด ใหม่ สะอาด ที่สำคัญ เรื่องมากได้ตามใจ ไม่โดนแม่ค้าเอาสากปา เพราะกัสเรื่องมากจริงๆ 555 


เมนูโปรดของ กัสคือ 

ข้าวเหนียวมะม่วง ที่ข้าวเหนียวมูลรสชาดหวานมันกำลังดี ทานกับมะม่วงสุก หวานหอม ราดกระทิรสมัน โรยถั่วเล็กน้อยยย โอ๊ยย ฟิน แต่กัสจะสั่งไม่เหมือนชาวบ้าน คือกลัวอ้วน ใส่มะม่วงสองลูก ถ้าช่วงไหนมีทุเรียน ก็ใส่มันลงไปรวมกันด้วย อร่อยสุดๆ

ตำผลไม้ ก็จะมีผลไม้สดๆ นาๆชนิด ตำแบบสุดฝีมีเจ๊หมวย กุ้งแห้งตัวใหญ่ๆ ถั่วเม็ดโตๆ ที่สำคัญสะอาดปลอดภัยไม่เคยท้องเสีย ส่วนตำของผม ไม่เหมือนชาวบ้านอีกละ คือไม่ใส่พริก ไม่ใส่ปู เจ๊หมวยแกเคยถามนะ ว่า จะตำทำไม 555

สลัดผักผลไม้ จะบอกว่าผัก ผลไม้หลากหลายมาก ได้ครบ 5 สี ครบวิตามินแน่นอน สะอาด สด ใหม่ มีไข่นกกระทาด้วย น้ำสลัดนี่ก็สูตรพิเศษ เจ๊หมวยทำเองนะ อร่อยคุ้มจริงๆ 

ส่วนเมนูอื่นๆก็มี 
ผลไม้สดนาๆชนิดตามฤดูกาล สดสะอาดพร้อมรับประทาน
ส้มตำ
ตำปู
ตำผลไม้
ตำมะม่วง
ตำกระท้อน
ยำมะม่วง 
สลักผัก ผลไม้ 


เต้าฮวยฟรุตสลัด และพุดดิ้ง สูตรพิเศษที่น้าหมวยทำเอง 
น้ำฝรั่งคั้นสดๆ 
น้ำกระเจี๊ยบ เก็กฮวย เฉาก๊วย มะพร้าว
ขนมขบเคี้ยวต่างๆมากมาย

ว่างๆไปโดนกันได้ ที่ร้านน้าหมวยผลไม้ 
อยู่ที่ หน้ามหาวิทยาลัยรังสิต ตรงหน้าหอแวนด้า ที่มีตู้เอทีเอ็มเยอะๆ
เปิดตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเย็นถึงตีสองโดยประมาณ
ปิดทุกวันเสาร์ ยกเว้นเสาร์ช่วงสอบ 

ติดตามข่าวสาร พูดคุยกับน้าหมวยได้ที่แฟนเพจ น้าหมวยผลไม้ 
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89/134787746692502?fref=ts

แอบขโมยรูปน้าหมวยจากเพจมาให้ดู ไปชิมแล้วกดไลค์ด้วยนะครับ ^^


วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รีวิว น้ำเต้าหู้ SHIN PO ในเซเว่น

รีวิว น้ำเต้าหู้ SHIN PO ในเซเว่น

         บลอคนี้ไม่ได้อะไรจากใครทั้งสิ้น รีวิวทุกสิ่งในชีวิต ที่อยากจะรีวิว โดย Gusstation ประเดิมบล็อคนี้ด้วยรีวิว น้ำเต้าหู้ ชินโป จากเซเว่น ดึกๆโกนหนวดไม่เสร็จ เครื่องโกนหนวดแบตหมด เลยเดินออกไปซื้อมีดโกนหนวดจากเซเว่น ไปเห็นน้ำเต้าหู้ ซองแปลกๆ อยู่ในตู้แช่ ปกติชอบทานน้ำเต้าหู้อยู่แล้ว เลยจัดซะหน่อย แบบอยากลอง


          รูปลักษณ์ภายนอก ถือว่าค่อนข้างโดนใจ มองออกว่าเป็นอะไรที่เต้าหู้ๆ อ่ะ อีกอย่างกัสเป็นคนชอบบรรจุภัณฑ์แบบนี้อ่ะ อย่างเจเล่บิวติงี้ เปิดแล้วดูดได้เลย หมดจด ไม่ต้องมาแกะหลอดให้รำคาญใจ อีกอย่างคือ เป็นอะไรที่ดีกว่ากล่องกระดาษนะ เพราะกล่องกระดาษเคลือบหลายชั้น แยกออกจากกันยาก ทำให้นำไปรีไซเคิลลำบาก แบบนี้ใช้พลาสติกน้อยกว่าแบบขวดด้วย ถือง่าย ขนส่งง่าย ไม่เหมือนพวกแก้ว



          ฉลาก ฉลากค่อนข้างครบส่วน มีระบุส่วนผสมและฉลากโภชนาการอย่างชัดเจน

                     น้ำนมถั่วเหลือง 96.40 %  อันนี้ ต้องลองชิมนะ เพราะบอกมาเป็นน้ำนมถั่วเหลือง ไม่ได้บอกเป็นปริมาณถั่วเหลืองแห้ง เราจึงไม่ทราบความเข้มข้น

                     น้ำตาลทรายแดง 3.50 % จากขนาดบรรจุ 200 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 3.5% ดังนั้น ทั้งซองก็มีน้ำตาลประมาณ 7 กรัม ก็ราวๆ 1 ช้อนชา กับอีกเกือบๆครึ่งช้อนชา เทียบกับยี่ห้ออื่น ก็ถือว่าไม่เยอะนะ เทียบกับน้ำเต้าหู้ตลาด น้อยกว่ามาก

                      คอลลาเจน 0.1 % อั๊ยย๊ะ มีคอลลาเจนด้วยย 0.1% จาก200 มิลลิลิตร ก็ประมาณ 200 มิลิกรัม นิดๆหน่อยๆพอให้รู้ว่ามี

         ฉลากโภชนาการ ตรงนี้หล่ะ ที่ผมใช้ตัดสินใจในการเลือกซื้อเสมอๆ อยากให้ทุกคน สักเกตทุกครั้ง มันมีประโยชน์จริงๆนะ
ผมจะดูเฉพาะที่น่าสนใจนะครับ ถุงนี้ให้พลังงาน 110 กิโลแคลลอรี่ โดย 30 กิโลแคลลอรี่จาก110 นี้ มาจากไขมัน

                     ไขมันทั้งหมด 3.5 กรัม ถือว่าน้อย คิดเป็น 5% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

                      โปรตีน 6 กรัม ก็พอๆกับยี่ห้ออื่นนะ โดยทั้วไปร่างกายเราต้องการโปรตีนประมาณ 1กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ผมหนัก 62 กิโลกรัม ผมก็ต้องการโปรตีน 62 กรัม หลายคนบอกว่า ไก่ทอดชิ้นเดียวก็เกินแล้วมั๊ง คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ไก่1ชิ้น มีทั้งไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ไหนจะน้ำอีก เหลือเป็นโปรตีนแห้งๆไม่เท่าไหร่หรอก ที่เราคำนวณคร่าวๆจากน้ำหนักตัวคือโปรตีนแห้งๆที่เราต้องการครับ

                        น้ำตาล 12 กรัม เฮ้ย ไหนบอกว่า  ใส่ไปแค่เจ็ดกรัมไง เดี๋ยวก่อน ในเมล็ดถั่วเหลืองก็มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบนะครับผม
สุดท้ายปริมาณโซเดียม 20 มิลิกรัม ไม่ได้ทำให้เดือดร้อนอะไร แค่อย่าทานให้เกิน 100 ซองต่อวัน ฮ่าๆ

         สุดท้าเลยจริงๆสำคัญมากๆ รสชาด ผมว่าอันนี้รสชาดเป็นน้ำเต้าหู้จริงๆจังๆอ่ะ ไม่เหมือนยี่ห้ออื่นที่แอบใส่นมผงบ้างอะไรบ้างจนรสแปลกไป จะว่าไปผมก็ชอบมากกว่านะ อาจจะจืดๆไปหน่อยแต่ก็โอเค น้ำตาลจะได้ไม่เยอะไป

        ส่วนการเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์แบบพาสเจอไรซ์ควรเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาสเซลเซียส โดยทั่วไปเก็บได้แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องสารกันเสียคับผม
        บทสรุป ราคา 10 บาท นับว่าคุ้มค่า จะทานมื้อไหนก็ดูจะคุ้มได้ประโยชน์ ดีกว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือชาเขียว น้ำอัดลม เครื่องดื่มอะมิโนนู่นนี่นั่น
        ขอบคุณท่านที่ติดตาม เป็นเพียงความเห็นของเจ้าของบล็อค ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ รีวิวสนุกๆแชรๆกันเฉยๆ แล้วจะมารีวิวอย่างอื่นให้ได้อ่านอีกนะครับ


Gusstation